การใช้ปลิงบำบัดโรค (Leech Therapy) (ส.ค. 54)

เขียนโดย biology เมื่อ . หัวข้อ บทความ, บทความปี 2554

 

การใช้ปลิงบำบัดโรค (Leech Therapy)

ดร.วนิดา ธนประโยชน์ศักดิ์

 

          ในช่วงนี้ทุกหนแห่งในโลกต่างเผชิญกับสภาพภูมิอากาศแปรปรวนกันท่วนหน้า โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ปีนี้มีฝนตกค่อนข้างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นฝนในฤดูหรือฝนนอกฤดูก็ตาม สิ่งที่มากับฤดูฝนก็คือสัตว์มีพิษกัดต่อยทั้งหลาย นอกจากนี้ยังมีสัตว์อีกประเภทหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปยามน้ำลดลงก็คือปลิง (leech) นั่นเอง

            ปลิงเป็นสัตว์ที่ไม่มีพิษแต่เป็นสัตว์ที่ดูดเลือดสัตว์อื่นเป็นอาหาร ด้วยลักษณะเฉพาะของปลิงที่ดูดเลือดเป็นอาหารนั่นเองจึงนิยมใช้ปลิงในการบำบัดโรค (Leech therapy) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Hirudotherapy ตามชื่อสารฮฮิรูดิน (Hirudin) ซึ่งเราจะได้ทราบในรายละเอียดต่อไป

 

 

54-10-1

 

 

ปลิงเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในไฟลัมแอนเนลิดา (phylum Annelida) ในซับคลาสฮิรูดินี (subclass Hirudinea)เป็นสัตว์สองเพศหรือกะเทย (hermaphrodites) ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำจืด มีบางชนิดที่พบอาศัยอยู่บนบก และในแหล่งน้ำเค็ม ดำรงชีวิตเป็นแบบปรสิตชั่วคราวดูดเลือด สัตว์อื่นกินเป็นอาหาร ความยาวของลำตัวตั้งแต่ 0.5 – 10 นิ้ว มีสีน้ำตาลไปจนกระทั่งสีดำ ลำตัวมีปล้องเห็นชัดเจนแต่ปล้อง ที่เห็นภายนอกลำตัวและภายในลำตัวมีจำนวนไม่เท่ากัน โดยปล้องภายนอกลำตัวมีประมาณ 102 ปล้อง ส่วนปล้องภายในลำตัวมี 32 ปล้อง ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ปล้องแรกทางด้านหน้าจะเป็นส่วนหัว มีสมองส่วนหน้าและมีปากที่มีอวัยวะดูดยึด (anterior sucker) ขนาดใหญ่ ถัดลงมาอีก 21 ปล้องจะเป็นช่วงลำตัวซึ่งมีปมประสาท (neuronal ganglia) อยู่ตลอดแนวลำตัวและมีอวัยวะสืบพันธุ์ ส่วนที่เหลืออีก 7 ปล้องสุดท้ายของลำตัวจะเชื่อมรวมกัน มีสมองส่วนท้ายและมีอวัยวะดูดยึดของส่วนท้ายลำตัว (tail sucker)                         

การใช้ปลิงในการบำบัดโรค พบว่ามีมานานแล้วตั้งแต่ในยุคสมัยกรีก โรมันและอาหรับ เมื่อประมาณกว่า 2,500 ปีที่ผ่านมา โดยคนในสมัยนั้นนิยมนำปลิงมาใช้ในการดูดเลือดเสียออกจากร่างกาย และในศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมาเริ่มทำในเชิงการค้าโดยมีการเพาะเลี้ยงปลิงและส่งออกขายให้กับทางโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อใช้ในการรักษาโรค ซึ่งปลิงที่พบในโลกนี้ที่ได้จำแนกชนิดแล้วมีมากถึง 600 สปีชีส์ แต่มีประมาณ 15 สปีชีส์เท่านั้นที่นิยมนำมาใช้ทางการแพทย์ (medicinal leeches) อาทิเช่น Hirudo medicinalis, Hirudo orientalis, Hirudo verbena, Hirudo troctina, Hirudinaria manillensis และ Macrobdella decora เป็นต้น ในธรรมชาติปลิงจะหาเหยื่อโดยการใช้ประสาทสัมผัสกับส่วนไขหรือน้ำมันที่อยู่บนผิวหนัง จากบาดแผลที่มีเลือด ความร้อน หรือคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออกมาจากเหยื่อ แต่ในทางการแพทย์ แพทย์จะใช้วิธีนำปลิงไปวางบนตำแหน่งที่ต้องการรักษา ซึ่งพบว่าแพทย์สามารถใช้ปลิงรักษาโรคต่อไปนี้ได้ เช่น ฝีหนองที่บวมอักเสบ โรคหัวใจ โรคไขข้อ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดดำ โรคตึงเครียดของกล้ามเนื้อ การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด หรืออาการปวดของกระดูกสันหลัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังนิยมใช้ปลิงกับการทำศัลยกรรมพลาสติก (plastic surgery) อีกด้วย

             บทบาทของปลิงในการบำบัดโรค เริ่มจากเมื่อปลิงสัมผัสกับผิวหนังคนไข้ มันจะเริ่มดูดเลือดและปล่อยน้ำลายออกมา ซึ่งในน้ำลายนี้จะมีเอนไซม์และสารประกอบหลายชนิดที่สามารถใช้ในการรักษาโรคได้ เช่น

     – ฮิรูดิน (Hirudin): มีสมบัติช่วยในการยับยั้งการแข็งตัวของเลือดโดยจับกับทรอมบิน (thrombin)

     – เคลิน (Calin): มีสมบัติยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ยับยั้งการตกตะกอนของเกล็ดเลือดที่เป็น
                               คอลลาเจน

     – เดสทาบิเลส (Destabilase): มีสมบัติเกี่ยวกับเกี่ยวกับการจดจำ ช่วยละลายไฟบริน (fibrin) 
                               การเกิด การแข็งตัวของเลือดเป็นลิ่มเลือด

    – ฮิรูสแทซิน (Hirustasin): มีสมบัติยับยั้ง ทริปซิน (trypsin) และไคโมทริปซิน (chymotrypsin)

    – เดลลินส์ (Bdellins): มีสมบัติต้านการอักเสบ ยับยั้งทริปซิน พลาสมิน (plasmin) และอะโครซิน 
                               (acrosin)

    – ไฮอะลูโรนิเดส (Hialuronidase): มีสมบัติเป็นสารปฏิชีวนะ (antibiotic)

    – ทริปเทสอินฮิบิเตอร์ (Tryptase inhibitor): ยับยั้งเอนไซม์โพรทีโอไลติก (proteolytic enzyme) 
                               ใน เซลล์แมสท์ (mast cell) ของโฮสต์

    – เอกลินส์ (Eglins): มีสมบัติต่อต้านการอักเสบ ยับยั้งกิจกรรมของแอลฟาไคโมทริปซิน และ
                               ไคแมส (chymase)

    – คาร์บอกซิเพปทิเดสเออินฮิบิเตอร์ (Carboxipeptidase A inhibitors): มีสมบัติในการเพิ่มการ
                               ไหลเข้าของเลือดที่ตำแหน่งที่ถูกกัด

     – สารวาโซดิเลติง (vasodilating agents): มีสมบัติช่วยในการขยายผนังหลอดเลือด

     – สารที่มีสมบัติคล้ายฮิสทามีน (Histaminelike substances): มีสมบัติในการเพิ่มการไหลเข้าของ
                               เลือดที่ ตำแหน่งที่ถูกกัด และขยายหลอดเลือด

     – อะซิทิลโคลีน (Acetylcholine): มีสมบัติในการขยายหลอดเลือด

     – สารที่เป็นยาชา (Anesthetics substance): มีสมบัติเป็นยาชา

        จากตัวอย่างของสารประกอบต่างๆ ที่พบในน้ำลายของปลิงที่กล่าวมาแล้วนี้ จะมีบทบาทในการทำงานร่วมกันในการบำบัดโรค โดยเริ่มจากเมื่อปลิงดูดเลือดจากคนไข้ สารฮิรูดินซึ่งมีสมบัติช่วยในการป้องกันการแข็งตัวของเลือดและสารเคลินซึ่งมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการแข็งตัวของเกล็ดเลือด สารเดสทาบิเลส ช่วยละลายลิ่มเลือดที่พบอยู่ในหลอดเลือด ซึ่งป็นการช่วยกำจัดความเสี่ยงก่อนที่ลิ่มเลือดจะไหลไปอุดตันอยู่ตามหลอดเลือดอาร์เตอรีและเวน รวมทั้งสารอีก 3 ชนิด ซึ่งประกอบด้วย สารที่มีสมบัติคล้ายกับฮิสทามีน อะซิติล โคลีน และคาร์บอกซิเพปทิเดส สารทั้งสามตัวนี้มีบทบาทช่วยในการขยายหลอดเลือด จึงทำให้เลือดไหลผ่านหลอดเลือดได้อย่างอิสระโดยไม่มีข้อจำกัด 

          ในระยะยาวพบว่าแพทย์มีการใช้ปลิงบำบัดโรคได้อย่างหลากหลายมากขึ้น เช่น ช่วยปรับความดันโลหิตสูงของคนไข้ รักษาคนไข้เกี่ยวกับโรคหลอดเลือดในสมองตีบให้เลือดสามารถไปเลี้ยงสมองได้ รักษาบาดแผลของผู้ป่วยโรคเบาหวาน เป็นต้น และในปัจจุบันนิยมใช้ปลิงในทางจุลศัลยกรรม (microsurgery) ค่อนข้างมาก โดยใช้ปลิงดูดเลือดในบริเวณที่หลอดเลือดมีการอุดตันเพื่อให้เลือดมีการไหลเวียนได้สะดวก ใช้รักษาซ่อมแซมบาดแผลบริเวณที่มีเนื้อเยื่อตายเพื่อกระตุ้นให้มีเลือดไหลเวียนมาเลี้ยงบริเวณบาดแผลนั้นจนสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อขึ้นมาได้ใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่าในบางประเทศนิยมใช้ปลิงรักษาคนไข้ที่มีสิวอักเสบบนใบหน้ากันอย่างแพร่หลายอีกด้วย อย่างไรก็ตามการใช้ปลิงบำบัดควรอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา ไม่ควรนำปลิงมารักษาด้วยตนเองเพราะว่าแพทย์เท่านั้นที่จะบอกได้ว่าปลิงชนิดใดที่สามารถนำมาใช้ในทางการแพทย์โดยไม่เกิดอันตรายแก่คนไข้ได้

เอกสารอ้างอิง

Hyson, J.M. 2005. Leech Therapy: A History. Journal of the History of Dentistry. Vol.53, 
            No.1 Online available: http://www.fauchard.org/history/article/jdh 
            (Retrieved 26/09/2011) 
Medicinal Leech (Hirudo medicinalis). Online available: 
            http://www.leeches.biz/ (Retrieved 26/09/2011)
Bio-Surgery: Medicinal Leech Therapy and Maggots. Online available:
            http://www.aetna.com/cpb/medical/data/500_599/0556.html  (Retrieved 28/09/2011) 
The Benefits of Leech Therapy and its Effects. Online available:
            http://www.leechestherapy.com/benefits_and_effects.php (Retrieved 28/09/2011)
Leech. Online available: http://www.en.wikipedia.org/wiki/Leech (Retrieved 28/09/2011)

 

 19,233 total views,  12 views today